Search for:
มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ ขับรถชนครั้งแรก ต้องทำยังไงดี

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

สำหรับคุณหนุ่มๆ สาวๆ ที่หัดขับรถครั้งแรก คงจะใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ที่จะได้ออกถนนใหญ่กันอย่างแน่นอน แต่เมื่อเราต้องขับรถกันอย่างจริงๆ จังๆ แน่นอนว่าเรื่องไม่คาดฝันมักเกิดขึ้น แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลย

สิ่งแรกที่มือใหม่ต้องทำนั่นคือ “สติ” เราต้องตั้งสติก่อน เพราะสติ จะทำให้เรามองเห็นทางออก ไม่ว่าปัญหาจะใหญ่หรือเล็กแค่ไหน ก็จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย

มือใหม่หัดขับ

⚫ หลังจากตั้งสติได้แล้ว เมื่อเกิดการชน โดยธรรมชาติทั้งรถเราและรถคู่กรณีต้องหยุดอย่างทันที อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเราก็ต้องจอดเอาไว้อย่างนั้นแหละห้ามขยับ เพราะว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเค้าจะได้มาดูที่เกิดเหตุ สำหรับถนนที่เป็นทางหลวงส่วนใหญ่มักมีกล้องวงจรปิด ดังนั้น การหยุดรถเอาไว้ก่อนจะเป็นตัวช่วยบ่งบอกได้ด้วยว่า ใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายผิด และใครเป็นฝ่ายถูก โดยที่เราไม่ต้องกังวลว่าบาดแผลที่ได้รับ จะเล็กหรือจะใหญ่

⚫ กดโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำท้องที่เลยค่ะ เพื่อให้เขามาตรวจดู ว่าแท้จริงแล้วอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ ใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายผิด ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจะทำการตีเส้นจากจุดที่เกิดอุบัติเหตุอย่างแท้จริง เพื่อให้ผู้ที่สัญจรไปมาได้ทราบว่าบริเวณนี้ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยจะวัดจากจุดที่รถเรามาและจุดที่รถคู่กรณีมาบรรจบกับเรา หรือเกิดการชนกันนั่นเอง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เราสามารถย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุได้ เพราะหากขืนจอดไว้อย่างนั้น ขวางทางจราจรรถอื่นหมด

⚫ สิ่งที่เราทำได้แนะนำให้จดเลขทะเบียนรถของคู่กรณี และข้อมูลอื่นๆ เช่น สีรถ ยี่ห้อ ตำหนิ เวลาและสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุ และหากมีการพูดคุยกับคู่กรณี แนะนำว่าอย่าไปโต้เถียงกัน หรือโยนความผิดให้แก่กัน แต่ควรพูดคุยในเรื่องการให้ข้อมูลส่วนตัวทั่วไป เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ ทะเบียนรถ และบริษัทประกันที่ต่างฝ่ายต่างทำไว้ ดีกว่า และแนะนำให้คุณมองหาใครที่อยู่ในบริเวณนั้นที่เห็นเหตุการณ์ และสามารถเป็นพยานให้เราได้ว่าเราไม่มีเป็นฝ่ายผิด

หากในการเกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บ และคู่กรณีปฏิเสธความรับผิดชอบ แนะนำให้แจ้งความไว้และให้คุณแจ้งทำหนังสือยืนยันการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ และให้ลงชื่อ เพื่อเป็นการยืนยันทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักฐานในกรณีที่มีการฟ้องร้องหรือเอาความผิด เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกัน และรอเจ้าหน้าที่ประกันภัยเดินทามาถึง

ในกรณีที่คุณและคู่กรณีมีความผิดพอๆ กัน คุณ แนะนำว่าอย่ายอมหรือออมชอมจ่ายค่าเสียหายใดๆ แก่คู่กรณี เพราะนั่นหมายความว่าเราผิดเต็มๆ อาจจะทำให้เสียประวัติในการทำประกันภัยครั้งต่อไปได้

 อย่างไรก็ลองนำไปพิจารณาและปรับใช้กันเอาเองนะคะ เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะแตกต่างกันไป แล้วแต่กรณี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขับอย่างมีสติ เมาอย่าขับ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุนะครับ

แซงรถช้า
มือใหม่ หัดขับ แซงรถช้าอย่างไรให้ปลอดภัย

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

รู้ไหมครับว่าหนึ่งในอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยนั้นมักมีสาเหตุมาจากการขับรถแซง โดยสถิติ พ.ศ. 2560 มีอุบัติเหตุที่เกิดจากการแซงแบบผิดกฎหมายถึง 204 ครั้งและ การตัดหน้าแบบกระชั้นชิด ถึง 9,885 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่ของปัญหาเหล่านี้ เกิดได้จากผู้ขับขี่ขาดทักษะ หรือมารยาทของผู้ขับขี่ (เอง) เป็นอับดับต้นๆ ถัดมาอาจมาจากสภาพแวดล้อม สภาพถนน หรือเหตุสุดวิสัยต่างๆ ที่คนขับรถจำเป็นต้องเรียนรู้ พี่กู๊ดมีข้อแนะนำการขับแซงที่ถูกต้องมาให้เรียนรู้กัน หากมีเหตุการณ์ที่คุณจะต้องเปลี่ยนเลนหรือต้องขับแซงก็จะสามารถทำได้อย่างง่ายดายเลยครับ เรื่องเหล่านี้นอกจากจะรู้เพื่อประยุกต์ใช้ในการขับขี่แล้ว ยังสามารถป้องกันตัวเองจากอุบัติเหตุและการทำผิดกฎหมายได้อีกด้วยครับ ถึงแม้ว่าใครหลายคนจะมีประกันภัยรถยนต์จาก ไดเร็ค เอเชีย (Direct Asia) ไว้อยู่แล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยต่อตัวคุณ รู้ไว้ดีกว่านะครับ

กฎหมายว่าเรื่องของการแซงรถ

วิธีการแซงนั้นไม่เพียงจะต้องทำให้ถูกวิธีแต่จะต้องทำให้ถูกกฎหมายด้วย ดังนี้

มาตรา 44(5) ผู้ขับขี่ซึ่งประสงค์จะขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นในทางเดินรถ ซึ่งไม่ได้แบ่งช่องทางเดินรถไว้ ต้องให้สัญญาณโดยกระพริบไฟหน้าหลายครั้ง หรือให้ไฟสัญญาณยกเลี้ยวขวา หรือให้เสียงสัญญาณดังพอที่จะ ให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถคันหน้าให้สัญญาณตอบตามมาตรา 37 (3) หรือมาตรา 38 (3) และเมื่อเห็นว่าไม่เป็นการกีดขวางรถอื่นที่กำลังแซงแล้ว จึงจะแซงขึ้นหน้าได้

ดังนั้นการแซงในแต่ละครั้งจึงจะต้องส่งสัญญาณเพื่อขอแซง โดยใช้สัญญาณไฟกระพริบทางขวา เพื่อให้รถคันหลังรู้ว่าจะแซง หรือถ้าหากเป็นผู้ที่ได้รับสัญญาณการแซงก็ควรจะให้สัญญาณตอบ ทั้งนี้ในเวลากลางคืนให้สัญญาณไฟสูงต่ำสลับกันแทน

แซงรถช้า

ขอแซงกันแบบ Step by Step

หลายคนอาจจะเป็นมือใหม่หัดขับ ทำให้ตัดสินใจไม่ถูกว่าจังหวะแบบไหนจะสามารถแซงได้ แล้วขั้นตอนที่ถูกต้องควรเป็นแบบไหน พี่กู๊ดขอแนะนำขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณแซงรถกันได้ง่ายขึ้น ลองมาดูกันครับว่า ที่ผ่านมาได้ทำตามนี้กันหรือเปล่า

1. สังเกตสภาพแวดล้อมในการแซง
การแซงในแต่ละครั้งควรเลือกเส้นทางให้เหมาะสม โดยการแซงนั้นควรใช้ในกรณีทางที่ตรง และเส้นแบ่งกลางถนนไม่เป็นเส้นทึบ ที่สำคัญมีทัศนะวิสัยด้านหน้าที่ไกลพอ เพื่อดูว่ามีพื้นที่เพียงพอ สำหรับให้เราเข้าเลนเดิมได้เมื่อแซงผ่านไปแล้ว

2. มองรถรอบๆ ก่อนแซง
มองกระจกมองข้าง หากรถที่มองในกระจกมองข้างล้นกรอบกระจก แสดงว่ารถคันนั้นอยู่ในระยะประชิดกับรถคุณ ไม่ควรแซงเด็ดขาด

3. สำรวจรถที่มาจากฝั่งตรงข้าม
ว่าเป็นรถใหญ่หรือรถเล็ก ขับมาด้วยความเร็วขนาดไหน และถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน ระหว่างการแซงแล้ว เขามีพื้นที่เพียงพอที่จะหลบเราได้หรือไม่

นอกจากนี้ข้อคำนึงถึงก่อนที่จะแซงรถ ก็คือความเร็วและระยะทางที่จะใช้ในการแซง การคาดการณ์ผิดๆ อาจทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุชนประสานงาขึ้นได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมากๆ ดังนั้นควรดูให้ดีๆ ก่อนนะครับ 

เจอแบบนี้ห้ามแซงเด็ดขาด!!

นอกจากเทคนิค สิ่งที่พี่กู๊ดอยากแนะนำมือใหม่ หัดขับ ให้คำนึงเช่นกัน คือ การแซงรถช้านั้นไม่สามารถทำได้ทุกๆ เส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางดังต่อไปนี้

1. ไหล่ทางด้านซ้าย
บางพื้นที่ในต่างจังหวัดไหล่ทางด้านซ้ายจะใกล้กับขอบทางเป็นอย่างมาก อีกทั้งมีสภาพค่อนข้างแย่อาจจะมีหลุม พื้นยุบ หากตัดสินใจแซงในทางนี้ก็มีโอกาสโดนบริเวณดังกล่าวจนยางแตกก็เป็นได้ หรือในกรณแซงรถขนาดใหญ่ซึ่งมองไม่เห็นถนนข้างหน้า อาจเกิดอุบัติเหตุได้หากมีรถจอดอยู่ข้างทาง

2. รถที่เราจะแซงชะลอตัว แต่ยังไม่ให้สัญญาณ
บางครั้งเราเห็นรถคันหน้าชะลอตัวลง ไม่ได้หมายความว่าเขากำลังจะชะลอเพื่อให้เราแซงหากเขาไม่ได้ตอบสัญญาณกลับมา บางทีการชะลออาจจะเกิดจากการเตรียมเลี้ยวอยู่ก็ได้

3. ขาขึ้นบนเส้นทางไต่เขา
หากทางบนเนินเป็นเส้นตรง อย่าเพิ่งตัดสินใจแซง เพราะทางแบบนี้จะบังทางจนไม่เห็นรถที่กำลังสวนมา แถมรถจากอีกฝั่งก็มองไม่เห็นคุณเช่นกัน มีความเสี่ยงที่จะเกิดการชนแบบประสานงาสุดๆ ดังนั้นถ้าจะแซงรถบนเส้นทางบนเขา ควรจะเป็นขาลงดีกว่า เพราะได้แรงส่งเนินขาลงช่วยทำให้แซงเสร็จได้เร็วขึ้นอีกทั้งยังปลอดภัยอีกต่างหาก

4. ทางโค้งที่มองไม่เห็นปลายทาง
ไม่ว่าจะเป็นโค้งที่มีอาคารหรือต้นไม้เป็นจุดบังนั้น พี่กู๊ดยืนยันความอันตรายได้เลยครับ เพราะบริเวณนั้นจะเป็นจุดบอดที่ไม่สามารถมองเห็นอีกรถสวนมาได้เลย นอกจากนี้การหักหลบหรือเบรกขณะเข้าโค้ง มีโอกาสเสียหลักง่ายมากๆ ดังนั้น พี่กู๊ดขอห้ามเลยนะครับว่าไม่ควรขับแซงบริเวณนี้โดยเด็ดขาด

การขับแซงสามารถทำได้และไม่อันตราย หากคุณ หรือ มือใหม่ หัดขับ ปฏิบัติอย่างถูกกฎจราจรและตัดสินใจในสถานการณ์ที่เหมาะสม จะช่วยให้หลีกเลี่ยงการชนแบบหลายต่อ หรือการชนแบบประสานงาได้อีกด้วย แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เพราะ ไดเร็ค เอเชีย (Direct Asia) พร้อมคุ้มครองคุณในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะไปถึงจุดเกิดเหตุอย่างว่องไวภายใน 30 นาที ทั้งนี้ การขับรถด้วยมารยาทที่ดีย่อมดีกว่าอย่างแน่นอน ดังนั้น ทุกครั้งที่ใช้รถใช้ถนนตั้งสติก่อนสตาร์ทกันด้วยนะครับ

 

เกียร์ธรรมดา
5 เหตุผลสำคัญ ที่คนสมัยนี้ ถึงไม่เลือกขับรถเกียร์ธรรมดา!

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

คุณเคยสังเกตกันบ้างไหมครับ รถยนต์ในบ้านเราตอนนี้ โดยเฉพาะรถเก๋งมือสอง ที่ขายกันตามท้องตลาด 70-80% มักจะเป็นรถยนต์เกียร์อัตโนมัติกันหมดแล้ว ส่วน “เกียร์ธรรมดา” นั้น รถยนต์นั่งที่เป็นเกียร์ธรรมดา มีตัวเลือกให้เลือกกันน้อยมากตามความนิยม เหลืออยู่เพียงแค่ Eco-Car 7-8 รุ่นเท่านั้น ที่เน้นราคาประหยัด หรือขายกลุ่มวัยรุ่นเอาไปแต่งซิ่งหน่อยๆ และรถกระบะ ที่ส่วนใหญ่ยังเป็นเกียร์ธรรมดา เนื่องจากการดูแลรักษาง่ายกว่า และความทนทานในการใช้งาน

ถ้าเป็นสมัยก่อน ใครจะหัดขับรถ ก็จะต้องเริ่มหัดขับเกียร์ธรรมดากันก่อน (เอาแค่ย้อนไปสัก 30 ปีก่อน รถเกียร์อัตโนมัติ เวลานั้นยังมีราคาแพง และมีตัวเลือกน้อย ในยุครถเกียร์ธรรมดายังเป็นใหญ่) แล้วค่อยไปขับเกียร์ออโต้ แต่มันก็มีข้อดีที่ขับเกียร์ออโต้เป็นเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปหัดขับกันอีกรอบ

เกียร์ธรรมดา

เอาล่ะ เรามาดูกันว่า 5 เหตุผลสำคัญ ที่คนสมัยนี้ ถึงไม่เลือกขับรถเกียร์ธรรมดากันครับ

1. กลัวเครื่องดับเวลาออกตัว

อันนี้จัดว่าเป็นความกลัวของคนที่เพิ่งเริ่มหัดขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาเลยก็ว่าได้ เจอกันทุกคน ผมเองก็เคยเป็น สืบเนื่องจากการ “ปล่อยคลัทช์ไม่สัมพันธ์กับจังหวะของคันเร่ง” ซึ่งต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกันพอสมควร เพราะถ้าออกตัวรถไม่สัมพันธ์กัน เครื่องยนต์ก็จะดับ ถ้าเจอรถติดๆ เวลาออกตัว เครื่องดับมันเป็นสิบรอบ จนรถคันหลังเบื่อเลย …

ทางที่ดีถ้าคุณเพิ่งหัดขับรถด้วยเกียร์ธรรมดา เวลาจะออกตัว แนะนำว่าให้เหยียบคลัทช์ไว้ก่อนจนสุด เข้าเกียร์ 1 แล้วเติมคันเร่งลงไปเยอะหน่อย (ห้ามเหยียบคันเร่งจนสุดนะ) ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนเท้าออกจากคลัทช์เบาๆ (คำเตือน ห้ามปล่อยเท้าออกจากคลัทช์โดยทันที! เพราะรถอาจพุ่งกระชากไปชนกับคันหน้าได้!)

สำหรับคนที่เพิ่งหัดขับรถใหม่ๆ อาจจะกลัวตรงจุดนี้ เมื่อคุณฝึกใช้เวลาจับจังหวะไปได้จนชำนาญ เลี้ยงคลัทช์เป็น รู้ระยะการปล่อยคลัทช์ของรถ ออกตัวรถได้ ไม่ดับ ขับรถออกตัวได้นุ่มนวล แค่นี้ก็ถือว่าผ่าน

2. ทางชัน คอสะพาน

อีกหนึ่งในจุดที่คนขับรถเกียร์ธรรมดา (โดยเฉพาะมือใหม่ทั้งหลาย) กลัว นั่นคือการเจอรถติดบนคอสะพาน หรือทางชันๆ ในลานจอดรถตามห้าง โอ้โห ยิ่งในกรุงเทพฯ ดินแดนรถติดระดับโลกด้วย บางทีรถติดกันในห้างเป็นชั่วโมงก็มี

คนขับรถเกียร์ธรรมดาถ้าทักษะไม่มากพอ บางทีการออกตัวอาจรถไหลไปชนกันคันท้ายได้ ทางที่ดี ผมแนะนำให้ใช้ “เบรกมือ” ดึงไว้เลยกันรถไหล จะได้ไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้นานๆ ให้เมื่อย หรือมาเลี้ยงคลัทช์ เหยียบคากันจนคลัทช์ไหม้ …

พอจะออกตัวรถ ก็ให้เหยียบคลัทช์เข้าเกียร์ตามปกติ แล้วก็ปฏิบัติตามข้อ 1 ก่อนจะปลดเบรกมือลง แล้วออกตัวไป แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวรถไหลแล้ว

3. เมื่อย และคุยโทรศัพท์ลำบาก

การขับรถเกียร์ธรรมดา ยิ่งถ้าเจอรถติดๆ คุณจะต้องเหยียบคลัทช์เข้าเกียร์บ่อยๆ ถ้าต้องขับรถกระบะ หรือรถยุโรปรุ่นเก่าๆ ที่คลัทช์มักแข็งๆ เหมาะกับพวกเท้าหนักๆ หน่อย เหยียบกันจนปวดเข่า ปวดขาซ้าย น่องโป่งเลยทีเดียว

อีกทั้งการคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ (แบบไม่ใช้แฮนด์ฟรี) ยังลำบาก เพราะต้องใช้มือซ้ายในการเปลี่ยนเกียร์ตลอด

4. มีแต่รุ่นเริ่มต้น

ถ้าใครจะเล่นรถเกียร์ธรรมดาป้ายแดงในเวลานี้ บอกได้เลยว่ามีแต่รุ่นเริ่มต้นเท่านั้น ที่เป็นเกียร์ธรรมดา ส่วนรุ่น Top หรือรุ่นรอง Top ล้วนแล้วเป็นเกียร์อัตโนมัติทั้งนั้น

ความที่อยากรถได้เกียร์ธรรมดาป้ายแดงรุ่น Top ออพชั่นเยอะๆ เลยต้องหายไปด้วย เพราะว่าไม่มีค่ายรถในบ้านเราผลิตขายสักเจ้า ซึ่งต่างจากรถยนต์ที่ขายในแถบยุโรป ยังมีเกียร์ MT รุ่นท็อปให้เลือกกันอีกเยอะ

5. ราคามือสองตก

เนื่องจากรถเกียร์ธรรมดาได้รับความนิยมน้อยลงมาก ซึ่งก็ส่งผลให้ราคามือสองตกลงมาด้วย และขายยากหน่อย โดยเฉพาะรถเก๋ง หรือรถ Eco-Car ที่เป็นเกียร์ธรรมดา ราคาหายไปจากรุ่นที่เป็นเกียร์อัตโนมัติราวๆ 20-30% เลยทีเดียว

แต่กรณีนี้ สำหรับรถเกียร์ธรรมดาแบบ SUV, รถกระบะ หรือรถสปอร์ต รถคลาสสิค รถดังในตำนาน อาจไม่มีผลในเรื่องราคาตกนัก เพราะคนที่เล่นรถเหล่านี้ ส่วนหนึ่งต้องขับเกียร์ธรรมดากันเป็นอยู่แล้ว และรถเหล่านี้เป็นประเภทสายลุย สายซิ่ง สายชอบ สายคลาสสิค มีคุณค่า ได้ขับแบบเกียร์ธรรมดา ยังดูดีกว่าขับเกียร์ออโต้ด้วยซ้ำ

แอพพลิเคชั่น
5 แอพพลิเคชั่นเด็ด! ที่มือใหม่หัดขับ ควรมี !

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

ในปัจจุบันนี้ก็มีมือใหม่หัดขับรถหลายคน เลือกซื้อรถมือสองมาทดลองขับ เพราะนอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่าย คุณจะยังสามารถได้ขับรถที่คุนอยากได้ในงบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งมือใหม่หัดขับหลายคน ก็อาจจะประสบปัญหามากมาย ทั้งเรื่องเส้นทาง หรือป้ายจราจรต่าง ๆ ทำให้ในขณะที่ขับรถหลายคนอาจจะต้องหยิบมือถือ และเปิดแอพพลิเคชั่น ขึ้นมาหาข้อมูลเส้นทาง หรือข้อมูลการขับรถ และ เทคนิคต่าง ๆ

ดังนั้น ในบทความนี้ จะรวม 5 Application เด็ด ที่มือใหม่หัดขับควรมี เพราะมันจะช่วยให้การขับรถเป็นเรื่องที่ง่าย และสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่ง แอพลิเคชั่นเหล่านี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับคนขับทุกคนเลยก็ว่าได้

แอพพลิเคชั่น

1.แอพพลิเคชั่น

แอพลิเคชั่นสุดฮิตที่จะรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นมากมายที่เป็นประโยนช์สำหรับผู้ขับ ทั้งวิธีการขับรถเบื้องต้น เทคนิกการขับรถแบบง่าย ๆ ที่มือใหม่ก็สามารถศึกษา และนำไปใช้ได้จริง รวมถึงความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรถยนต์ และเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ แอพนี้มีข้อดีตรงเป็นภาษาไทย สามารถอ่านและเข้าใจได้ง่าย (iOS app)

แอพพลิเคชั่น

2. Thailand Highway Traffic

ถ้าหากวันไหนที่คุณรีบ หรือต้องการความเร่งด่วน แล้วต้องการที่จะถึงทางด่วน รวมถึงการดูสภาพการจราจรตามถนนต่าง ๆ แนะนำแอพนี้เลยคะ เพราะว่ามันสามารถดูข้อมูลทางด่วน รวมถึงการเข้าไปดูกล้องวิดีโอที่ติดอยู่ทั่วประเทศไทยมากกว่า 100 แห่ง ทำให้คุณสามารถวางแผนการเดินทางได้สะดวก และรวดเร็ว แอพนี้มีข้อดีตรงที่สามารถโหลดใช้ได้กับ Android และ iOS

แอพพลิเคชั่น

3. Safemate

สำหรับแอพนี้ จะเป็นตัวช่วยวัดการปลอดภัยในการขับขี่ของคุณได้แบบ Real-Time เพราะมันจะช่วยประมวลผลการขับขี่ของคุณได้จากตัวเซนเซอร์อินฟาเรดที่อยู่ตรงสมาร์ทโฟน ซึ่งแอพตัวนี้นอกจากจะช่วยวัดความปลอดภัยในการขับขี่แล้ว มันยังช่วยเตือน ถ้าหากคุณขับขี่อยู่ในเกณฑ์อันตราย อาทิ ขับขี่เร็วเกินไป มีการเบรกกระทันหัน และมีการเลี้ยวกะทันหัน ซึ่งข้อดีของแอพนี้ก็คือระบบการแจ้งเตือนแบบ Real-Time นั่นเอง ซึ่งถ้าหากใครอยากรู้ว่าตัวเองขับรถอย่่างปลอดภัยหรือไม่ ก็ต้องลองโหลดมาใช้ดู (เวอร์ชั่น Android)

แอพพลิเคชั่น

4. Here Drive

หากคุณเป็นคนที่จำเส้นทางไม่ค่อยได้ หรือว่าชอบหลงทางอยู่ตลอดเวลา ลองโหลดแอพลิเคชั่นนี้มาเป็นตัวช่วยของคุณดู เพราะมันเป็นอีกหนึ่งแอพที่อัจฉะริยะมาก เพราะว่ามันจะช่วยนำคุณไปยังปลายทางโดยการสั่งงานด้วยเสียง เป็นเหมือนนาวิกเกเตอร์ที่จะแนะนำเส้นทางให้คุณได้แบบเลี้ยวต่อเลี้ยว และที่เจ๋งไปกว่านั้น คือมันจะมี คุณสมบัติ Find my car ที่จะช่วยบอกตำแหน่งของรถยนต์ที่คุณจอดเอาไว้ได้ เมื่อรถคุณถึงที่หมายปลายทาง ข้อดีของแอพนี้คือ สามารถใช้ได้กับทั่วโลก ไปต่างประเทศก็ใช้ได้ และสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องต่ออินเตอร์เน็ต แต่ข้อเสียคือ ใช้ได้แค่กับ Windows Phone เท่านั้น

5. Bangchak

อีกหนึ่งความสำคัญของผู้ขับรถ คือราคาน้ำมัน เพราะว่ามีการขึน-ลง อยู่ในทุก ๆ วัน ดังนั้นจะดีกว่าไหม ถ้าหากคุณจะมีแอพรายงานราคาน้ำมันแบบวันต่อวัน และสามารถเลือกดูราคาน้ำมันสำหรับวันต่อไปได้อีกด้วย ที่สำคัญมันสามารถโชว์จุดที่ตั้งของปั้มน้ำมันที่ใกล้สุดได้ด้วย ข้อดีของแอพนี้คือ สามารถอัพเดตราคาน้ำมันทั้งของปัจจุบัน และของในวันถัดไป (เวอร์ชั่น Android)

โช๊คอัพ
เกร็ดความรู้โช้คอัพ

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

หนึ่งชิ้นส่วนที่ทำของรถยนต์คือ โช้คอัพ เพราะถ้ารถไม่มีโช้คอัพแล้วล่ะก็ เราก็จะกระแทกแบบเต็มๆกับเนินต่างๆ ไม่มีอะไรมาดูดซับแรงกระแทกเลย วันนี้เราเลยมาบอกหน้าที่และประโยชน์ต่างๆของโช้คอัพกัน

หน้าที่โช้คอัพ

โช๊คอัพ

โช้คอัพ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่มีหน้าที่หลักในการช่วยรองรับแรงกระแทก ลดแรงสั่นสะเทือนของรถ และยังมีอีกหน้าที่คือคอยหน่วงการเคลื่อนที่ขึ้นลงของตัวรถ ไม่ให้ขึ้นและลงเร็วเกินไป ทั้งนี้ก็เพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับผิวถนนอย่างสม่ำเสมอทุกล้อ โดยมีสปริงเป็นตัวควบคุมการทำงาน

โช้คอัพ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

โช้คอัพรถยนต์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

1.โช้คอัพระบบน้ำมัน

โช้คอัพระบบน้ำมัน คือโช้คอัพที่ทำงานด้วยระบบไฮดรอลิคโดยในขณะที่โช้คอัพกำลังทำงานอยู่นั้น น้ำมันไฮดรอลิคจะไหลผ่านวาล์วภายในลูกสูบ ทำให้เกิดฟองอากาศภายในและเมื่อใดก็ตามที่ฟองอากาศดังกล่าวแตกก็จะทำให้เกิดการทำงานของโช้คอัพที่ผิดปกติ ส่งผลให้รถยนต์เสียการทรงตัวในจังหวะที่ใช้ความเร็วสูงได้

2.โช้คอัพระบบแก๊ส

โช้คอัพระบบแก๊ส ถือเป็นโช้คอัพที่ได้รับความนิยมมาก โดยเป็นการทำงานร่วมกันของแก๊สไนโตรเจนและน้ำมันไฮดรอลิค ซึ่งเมื่อโช้คอัพทำงาน ลูกสูบจะมีการเลื่อนตัวลงไปยังด้านล่างของกระบอกสูบและไหลขึ้นผ่านวาล์วไปยังห้องน้ำมันด้านบน ในขณะที่มันอีกส่วนหนึ่งก็จะไหลลงด้านล่างเพื่อไปพักตัวอยู่ในห้องน้ำมันสำรองซึ่งหลังจากนั้นเอง

ประโยชน์ของโช้คอัพ

โช๊คอัพ

-ช่วยให้เกิดความนิ่มนวลระหว่างการขับ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่

-ช่วยให้รถทรงตัวได้ดี เวลาเลี้ยว เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่

-ช่วยให้หน้ายางสัมผัสเท่ากันทุกล้อ ไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อยๆสไนโตรเจนก็จะเกิดการอัดตัวทำให้มีแรงดันในการอัดน้ำมันไฮดรอลิคกลับไปยังกระบอกลูกสูบ

เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรใส่ใจเป็นอย่างมากสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ หากโช้คชำรุดหรือเสื่อมสภาพอาจจะทำให้รถยนต์ของเราชำรุดได้ง่ายๆ

ขับรถครั้งแรก
มือใหม่หัดขับควรรู้เมื่อออกสู่ถนนจริงครั้งแรก

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

ขับรถครั้งแรก

มือใหม่หัดขับควรเตรียมตัวก่อนขับรถจริง สิ่งจำเป็นที่ต้องศึกษาและเรียนรู้ไว้ก่อนขับรถออกถนนใหญ่เป็นครั้งแรก อย่าลืมเตรียมความพร้อม เพื่อความปลอดภัยของชีวิตคุณและผู้อื่นด้วยเช่นกัน

สำหรับ “มือใหม่หัดขับแล้ว” ต่อให้เก่งกาจในโรงเรียนสอนขับรถมากมายขนาดไหน เมื่อได้ออกสู่โลกแห่งความเป็นจริงบนท้องถนน ก็มีหน้าซีด เหงื่อตก เพราะตื่นเต้นกับอะไรใหม่ ๆ ได้เหมือนกัน ฉะนั้นก่อนที่จะถอยรถออกสู่ถนนจริงเป็นครั้งแรก อย่าลืมเตรียมความพร้อม เพื่อที่ “คุณ” จะไม่ต้อง “พลาด” จนต้องเสียเวลาและชีวิต

ขับรถครั้งแรก

1. อย่าประมาท!! เพราะความประมาทเป็นบ่อเกิดแห่งความหายนะ สิ่งสำคัญที่สุดของหัวใจในการขับรถคือ “สติ” และตั้งอยู่ในความ “ไม่ประมาท” ในขณะที่ขับรถไม่ควรคุยโทรศัพท์ เหม่อลอย หลีกเลี่ยงการเมาแล้วขับ ที่นอกจากจะเป็นอันตรายต่อตัวคุณเองยังส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อคนอื่นได้ด้วยเช่นกัน

2. หาคนไปด้วย ลองหาคนที่มีความชำนาญในการขับขี่ไปด้วย เขาจะสามารถให้คำแนะนำกับคุณได้ ทั้งยังมีเพื่อนพูดคุยในการเดินทางช่วยลดความเกร็งและกังวล

3. เรียนรู้มารยาท มารยาทในการขับขี่สามารถเรียนรู้ได้เอง ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของคนใช้รถบนท้องถนนที่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร โดยมือใหม่หัดขับสามารถรู้ได้จากการสังเกต เช่น ถ้าต้องการขับช้า ควรจะชิดซ้าย หรือควรให้สัญญาณทุกครั้งที่จะเลี้ยวรถ ถือเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม คุณอาจจะขับไปศึกษาไป หรือลองท่องอินเตอร์เน็ตถามพี่กู (เกิ้ล) เข้าไปอ่านตามเว็บบอร์ดก็ได้ รู้แล้วก็อย่าลืมนำมาปฎิบัติตามด้วยนะครับ

4. ศึกษาเส้นทาง การศึกษาเส้นทางถือเป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือคุณจะเก๋าในการขับรถมากแค่ไหน เพราะการรู้จักเส้นทางจะทำให้ขับรถได้ง่ายและคล่องแคล่วมั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญการศึกษาเส้นทางก่อนขับขี่นั้นจะช่วยป้องกันการหลงทาง สามารถประหยัดเวลาและค่าน้ำมันได้อีกด้วย ในขณะเดียวกันคนใช้รถควรสังเกตสิ่งรอบข้าง และมีเบอรโทรฉุกเฉินติดตัวไว้ เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกละหุกนั่นเอง

5. การใช้สัญญาณเตือน เช่น แตร หรือไฟกระพริบ จะช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ใช่ว่าการใช้สัญญาณเตือนบ่อยๆ จะเป็นเรื่องดี เพราะมันอาจสร้างความรำคาญหรือรบกวนสมาธิการขับรถของคนอื่นได้เช่นกัน

6. อย่าขับจี้เกินไป การขับรถใกล้กับคันอื่นมากเกินไป นอกจากจะดูอึดอัด ไม่ได้ทิศทางแล้ว อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายกันได้ ดังนั้นการขับรถที่ดีควรเว้นระยะห่างจากคันหน้าไว้พอสมควร หรือประมาณ 2 วินาที

7. หลีกเลี่ยงขับกลางคืน และช่วงฝนตก เหล่ามือใหม่หัดขับควรหลีกเลี่ยงการขับรถตอนกลางคืนและช่วงฝนตก เพราะในเวลากลางคืน ความสามารถในการมองเห็นของคนลดลง จึงต้องระวังให้มากขึ้น ส่วนตอนฝนตกสิ่งที่ตามมาคือพื้นถนนลื่น การควบคุมหรือบังคับทิศทางของรถจึงต้องมากขึ้น อัตราการเกิดอันตรายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า มือใหม่หัดขับจึงควรรอให้เจนสนามอีกนึดหนึ่งก่อน ค่อยลองทดสอบสนามนี้ดู

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นที่นักขับมือใหม่ควรศึกษาและเรียนรู้ไว้ครับ เพราะการเป็นคนใช้รถและใช้ถนนที่ดี ไม่ใช่เพียงมีรถขับเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการมีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นด้วย นั่นหมายถึงความปลอดภัยของชีวิตคุณและผู้อื่นด้วยเช่นกัน

มือใหม่
มือใหม่หัดขับกับศัพท์ที่ควรรู้

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

เวลาที่คุณมาศูนย์บริการ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมหรือเช็คระยะ โดยส่วนใหญ่พนักงานหรือช่างจะอธิบายด้วยคำศัพท์เฉพาะที่ใช้กับรถ เลยทำให้เกิดความสงสัยได้ว่า คืออะไร วันนี้เราจะมาบอกคำศัพท์พื้นฐานที่คนใช้รถควรรู้

มือใหม่

แรงม้า (Horsepower)

แรงม้าหรือที่สากลนิยมย่อเป็น HP เป็นหน่วยวัดกำลังเครื่องยนต์ โดยที่ 1 แรงม้า จะเท่ากับ 7 กิโลกรัมแรงต่อเมตร (kgf · m) ต่อวินาที ฉะนั้นเมื่อคุณเลือกรถที่มีกำลังแรงม้าสูง กำลังขับเคลื่อนของรถก็จะสูงตามไปด้วย

มือใหม่

เลขไมค์ (Mileage)

ไมล์ หมายถึงระยะทางที่รถยนต์ต้องการในการเคลื่อนที่โดยใช้เชื้อเพลิง 1 ลิตร สำหรับระยะไมล์จะถือว่าสูงหรือต่ำนั้นขึ้นอยู่กับอายุรถและระยะทาง

มือใหม่

หมายเลขประจำตัวรถ (VIN)

ตัวอักษร 17 ตัว หรือ (Vehicle Identification Number)เปรียบเสมือนสูติบัตรของรถยนต์ จะมีข้อมูลมากมายถูกบันทึก ทั้งประวัติของรถยนต์,รุ่นของรถ,สถานที่ผลิต,รายละเอียดและอื่น ๆ โดยสามารถดูได้ในส่วนต่าง ๆ ของรถ รวมถึงประตูคนขับ,แผงหน้าปัดและใต้เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า

มือใหม่

ไส้กรองอากาศ (Air Filter)

ไส้กรองแต่ละประเภทมีความกรอกอากาศได้สะอาดแตกต่างกันอากาศที่สะอาดจะไม่สามารถผ่านเข้าไปได้อาจส่งผลต่อเครื่องยนต์ในการจ่ายพลังงานเชื้อเพลิงให้เพียงพอ และจะส่งผลถึงกำลังโดยรวมของเครื่องยนต์ด้วยเช่นกัน

มือใหม่

ความหนืดของน้ำมันเครื่อง (Oil Viscosity)

ในด้านการบำรุงรักษารถยนต์ทั่วไปน้ำมันหล่อลื่นของรถจะถูกจัดประเภทตามระดับความหนืด หรือ ความข้นของน้ำมัน
เมื่อเทียบกับน้ำมันข้นที่มีความหนืดสูงกว่า น้ำมันแบบบางเบาช่วยลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทได้เร็วขึ้นในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น แต่น้ำมันที่ข้นจะดีกว่าในการรักษาความแข็งแรงของฟิล์มและความดันน้ำมันที่อุณหภูมิและโหลดสูง

มือใหม่

น้ำยาหล่อเย็น (Coolant)

สารหล่อเย็นหรือที่เรียกว่าสารป้องกันการแข็งตัวเป็นการรวมกันของเอทิลีนไกลคอลและน้ำ น้ำยาหล่อเย็นช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์ของคุณจะไม่ร้อนมากเกินไป ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนถ่าย

มือใหม่

เบรก (Brake)

โดยเฉลี่ยแล้วผ้าเบรกจะอยู่ได้อย่างน้อย 80,000 กิโลเมตร แต่ประสิทธิภาพของเบรกจะคงอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่, สถานที่ที่ขับขี่,ความถี่ในการขับขี่และปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งรถยนต์บางรุ่นจะมีเซ็นเซอร์และสัญญาณเตือนผู้ขับเมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนผ้าเบรก

มือใหม่ต้องรู้
มือใหม่ต้องรู้!! หัดขับรถออกต่างจังหวัด ต้องระมัดระวังอย่างไร?

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

เมื่อคุณเพิ่งออกรถคันแรกและเป็นมือใหม่หัดขับ ดังนั้น การศึกษาหรือหาความรู้เกี่ยวกับการเดินทางจากผู้มีประสบการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต้องเปิดประสบการณ์นี้กันทั้งนั้น ดังนั้นจึงต้องมีการระมัดระวังเป็นพิเศษกว่าผู้ที่ชำนาญแล้ว ในการเดินทางนี้ จะได้เดินทางราบรื่น ปลอดภัย มีสติและไหวพริบทันสถานการณ์ มาดูกันว่าเรานำเกล็ดความรู้อะไรมานำเสนอบ้าง

ระวังหลับใน

ผู้ที่เป็นมือใหม่ขับรถ อาจจะไม่ชินกับการขับรถทางไกล จนทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และอาจจะทำให้ง่วงนอนได้ ซึ่งหากง่วงนอนระหว่างขับรถหรือที่เราเรียกกันว่าหลับในนั้น อาจจะเกิดขึ้นกับคุณก็ได้ ดังนั้นไม่ควรฝืนหากมีอาการง่วง ให้หาสถานที่ปลอดภัยจอดรถพักผ่อน หรือดื่มน้ำ ทานขนมที่ช่วยกระตุ้นไม่ให้ง่วงนอนได้ หรือถ้าไม่ไหวจริง ๆ ให้นอนพักสักตื่น ค่อยเดินทางต่อจะดีที่สุด

ระวังเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย

มือใหม่ต้องรู้

การเดินทางไกลแต่ละครั้งควรจะวางแผนการเดินทาง ศึกษาเส้นทางที่จะไป ว่ามีโค้งมากน้อยแค่ไหน รถเยอะมากแค่ไหน ยิ่งต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษสำหรับมือใหม่ หากคุณต้องเดินทางไปยังที่ไม่คุ้นชิน ไม่ควรใช้ความเร็วมากเกินไป เพื่อที่จะได้มองทางได้อย่างถี่ถ้วน ระมัดระวังสิ่งของตัดหน้า หรือรถสวนทางที่แคบ ต้องมีสติให้มากสำหรับการตัดสินใจในการแก้สถานการณ์ที่เจอระหว่างทาง

ระวังรถบรรทุก รถขนาดใหญ่

การขับรถออกต่างจังหวัดไม่ว่าเส้นทางไหน ก็มักจะเจอรถบรรทุก รถขนาดใหญ่อยู่มากมาย โดยเฉพาะนอกเมือง หรือเส้นเลี่ยงเมืองต่าง ๆ ดังนั้นควรมีสติในการขับรถ และรักษาระยะห่าง อย่าขับเข้าไปชิดจนเกินไป หรือถ้าเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้รถบรรทุกเลยจะดีที่สุด ไม่ต้องทำความเร็วมาก เพื่อความปลอดภัย

ระวังทางแยก

ทางแยกเยอะ มือใหม่ก็จะตื่นเต้นนิดนึง เพราะไม่รู้จะตัดสินใจออกรถไปเมื่อไหร่ดี จะระวังทางไหนก่อนดี นี่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับมือใหม่ขับรถ ดังนั้นควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ตั้งสติให้ดี และตัดสินใจให้ดี หากคุณเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะออกรถได้ ไม่ควรลังเล

มือใหม่ต้องรู้

ระวังสัตว์วิ่งตัดหน้ารถ

หากคุณกำลังอยากเดินทางไปเที่ยวเขา เที่ยวป่า ชมธรรมชาติ สิ่งที่ต้องระมัดระวังอีกเช่นกันนั้นก็คือ สัตว์ที่จะวิ่งตัดหน้ารถ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ ดังนั้นให้สังเกตุป้ายเตือนระหว่างทางว่ามีการเตือนให้ระวังสัตว์หรือไม่ และลดความเร็วทันที มองวิสัยทัศน์รอบข้างให้ทั่วถึง อย่าตื่นตระหนก เบรกกระทันหัน เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้

สำหรับมือใหม่ขับรถการเดินทางไกล ไปเที่ยว หรือขับรถทางไกลอาจเป็นเรื่องท้าทายที่ต้องฝึกฝนบ่อย ๆ ให้มีความชำนาญและมีความมั่นใจ แต่ก็ต้องไม่ลืมสิ่งที่ควรระวังและตั้งสติ เตรียมความพร้อมทั้งคนและรถก่อนเดินทางทุกครั้ง

แบตเตอรี่รถยนต์
แบตเตอรี่รถยนต์หมด “สำหรับมือใหม่หัดขับ ควรปฏิบัติยังไง” ไปดูข้อมูลนี้

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

สำหรับมือใหม่หัดขับรถยนต์ ที่ยังไม่มีความสามารถในการดูแลรถยนต์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สำคัญที่ควรใส่ใจดูแลอย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่นแบตเตอรี่รถยนต์ ที่นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียวที่ต้องหมั่นเช็คดูระดับน้ำ เช็คดูความจุของแบตเตอรี่ว่ามีไฟเพียงพอไหม เก็บไฟอยู่ไหม และทำความสะอาดภายนอกแบตเตอรี่ ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ข้อมูลเหล่านี้สำหรับมือใหม่หัดขับก็อาจจะยังไม่รู้วิธีในการตรวจเช็คด้วยตัวเอง และหากว่าวันหนึ่ง แบตเตอรี่รถยนต์หมด แล้วมือใหม่อย่างเราควรปฏิบัติอย่างไร วันนี้เราจะนำข้อมูลเกี่ยวกับ แบตเตอรี่รถยนต์หมด มาเล่าสู่กันฟัง…ลองไปดูข้อมูลนี้

อาการของแบตเตอรี่รถยนต์เวลาไฟหมด จะแสดงอาการเบื้องต้นดังนี้
รีโมทรถยนต์ไม่ทำงาน แตรรถไม่ดัง ระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ทั้งระบบใช้งานไม่ได้ อาการเหล่าเป็นการแสดงออกมาให้รู้ว่าแบตเตอรี่หมดแล้ว จนไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าใช้ภายในตัวรถยนต์ได้

ต้นเหตุที่อาจทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดไฟ

  • ลืมเปิดไฟรถทิ้งไว้ ไดซาร์จอาจมาปัญหา หรือไฟรั่วไฟชอร์ต

วิธีแก้ไขเบื้องต้นหากแบตเตอรี่หมด

  • นำแบตเตอรี่ไปชาร์ตไฟ ถ้าแบตเตอรี่ อายุการใช้งาน ไม่นานมาก สามารถถอดไปชาร์จไฟได้ จากนั้น แบตเตอรี่จะสามารถกลับมาใช้ใหม่ได้เหมือนเดิม แต่อายุการใช้งานอาจจะน้อยลงกว่าปกติ
  • แต่ถ้า แบตเตอรี่รถยนต์ อายุการใช้งานมานานแล้ว หากว่าแบตเตอรี่หมด แนะนำให้เปลี่ยนแบตใหม่ไปเลย “จะปลอดภัยกว่าเลยเชียวล่ะ”

จัมป์แบตเตอรี่ เพื่อใช้งานรถยนต์ชั่วคราว

  • ให้หาแบตเตอรี่ ลูกอื่นมาทำการ จัมป์ช่วยแบตเตอรี่ที่มีปัญหา เมื่อจัมป์สตาร์ทติดแล้ว ให้ขับรถไปให้นานที่สุด เพื่อที่ไดชาร์จของรถจะได้ ทำการชาร์จไฟเข้าไปในตัวแบตเตอรี่ได้เต็มที่ แนะนำว่าให้นำแบตเตอรี่ ที่ใหญ่กว่าลูกที่มีปัญหามาจัมป์ช่วยจะเป็นการดีที่สุด และระวังเรื่องของการจัมป์แบตเตอรี่สลับขั้วด้วยล่ะ

สำหรับมือใหม่หัดขับ หากแบตเตอรี่รถยนต์หมดควรทำอย่างไร

อันดับแรก เมื่อรถสตาร์ทไม่ติด สิ่งแรกที่คุณควรทำคือตั้งสติและเช็คอุปกรณ์ต่าง ๆ ในตัวรถ เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าที่รถสตาร์ทไม่ติดเป็นเพราะแบตเตอรี่รถหรือเป็นที่ระบบอื่น โดยส่วนใหญ่ที่รถสตาร์ทไม่ติดมักเกิดจาก แบตเตอรี่เสื่อม ไดชาร์จเสื่อม มอเตอร์สตาร์ทเสื่อม หรือระบบไฟฟ้าเกิดลัดวงจร โดยให้ลองเช็คอาการเพื่อหาสาเหตุก่อนดังนี้

  • ระบบไดชาร์จมีปัญหา โดยจะมีอาการเครื่องดับเวลาที่วิ่งรถรอบต่ำ ๆ หรือเมื่อลองถอดขั้วแบตเตอรี่ออกสักหนึ่งข้าง ขณะที่รถสตาร์ทอยู่ หากรถดับทันทีหรือมีอาการไฟตก รถกระตุก นั่นหมายความว่าสาเหตุอาจมาจากไดชาร์จเสื่อม ให้เข้าร้านซ่อมเพื่อเปลี่ยนไดชาร์จไปเลยดีกว่า
  • มอเตอร์สตาร์ทมีปัญหา หากเกิดเหตุการณ์รถสตาร์ทไม่ติด พ่วงแบตก็แล้ว เปลี่ยนแบตลูกใหม่ก็แล้ว หากยังพบว่ารถสตาร์ทไม่ติดอยู่เหมือนเดิม ให้เตรียมเงินในกระเป๋าให้ดี เพราะเคสนี้อาจต้องใช้รถลาก หรือพึ่งบริการซ่อมนอกสถานที่แน่นอน

หากเป็นอาการแบตเตอรี่เสื่อม จะเห็นว่ารถเก็บไฟไว้ไม่ค่อยได้ ยิ่งถ้ามีการจอดรถข้ามวัน พอกลับมาสตาร์ทรถอีกครั้งก็ไม่ติดแล้ว ในช่วงบิดกุญแจอาจมีเสียงแชะๆ อาการแบบนี้บ่งบอกว่าแบตเตอรี่เสื่อม และไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าไว้ได้นาน มีการรั่วไหลของแบตเตอรี่จนหมดในเวลาสั้น ๆ หากแบตเตอรี่เสื่อมน้อย จอดทิ้งเกิน 7-8 ชั่วโมงขึ้นไปถึงจะเริ่มสตาร์ทยาก ถ้าแบตเตอรี่เสื่อมมากเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงก็อาจจะมีอาการรถสตาร์ทไม่ติดไปเลย ซึ่งหากตรวจดูจนแน่ใจแล้วว่า ที่รถสตาร์ทไม่ติดเป็นเพราะแบตเตอรี่เสื่อม วิธีแก้ไขเบื้องต้น คือขอความช่วยเหลือเพื่อพ่วงแบตเตอรี่กับรถคันอื่น โดยใช้สายพ่วงแบตเตอรี่และทำตามขั้นตอนดังนี้

  • หนีบสายสีแดงที่ขั้วบวกของคันที่รถสตาร์ทไม่ติด
  • หนีบสายแดงเข้าที่ขั้วบวกของรถที่มาช่วย
  • หนีบสายสีดำที่ขั้วลบของรถที่มาช่วยเหลือ
  • หนีบสายดำที่ตัวรถคันที่มีปัญหา

เมื่อพ่วงแบตเตอรี่ครบตามขั้นตอนด้านบนแล้ว ให้เริ่มสตาร์ทรถของคันที่มาช่วยเหลือก่อน แล้วค่อยสตาร์ทคันที่สตาร์ทไม่ติด หากสตาร์ทรถติดแล้วให้ขับรถคันที่มีปัญหานาน ๆหน่อยเพื่อที่ระบบชาร์จไฟในรถจะได้ทำงานผลิตไฟเข้ามาเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ใหมากที่สุด หรือไม่งั้นก็รีบไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่เลยจะเป็นการดีที่สุด หากว่าคุณมีงบอยู่ในกระเป๋าพอที่จะเปลี่ยน

ติดต่อที่ศูนย์รถหรือร้านแบตเตอรี่

สำหรับมือใหม่หัดขับถ้าทำการจัมป์แบตเตอรี่ไม่เป็น หรือไม่มีใครที่พอให้ช่วยเหลือได้เลย แนะนำอีกวิธีง่ายๆ คือติดต่อไปที่ศูนย์บริการที่เราออกรถมาเลยก็ได้ เล่าอาการให้เขาฟังเขาให้บริการเราเป็นอย่างดีแน่นอน อีกทางหนึ่งก็คือหาเบอร์โทรฯ ของร้านแบตเตอรี่ที่เขารับเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์นอกสถานที่ โทรฯ ไปเลยวิธีนี้สะดวกดีเช่นกัน ดีไม่ดีราคาแบตเตอรี่อาจจะถูกกว่าที่ศูนย์บริการรถของเราก็เป็นได้

ยูเทิร์น
ยูเทิร์นกลับรถอย่างไรจึงจะปลอดภัย

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

หลายครั้งพบอุบัติเหตุตรงบริเวณจุดกลับรถ ที่อาจเป็นข่าวดังหลายข่าว ที่มีภาพจากคลิปวิดีโอเป็นหลักฐาน ทำให้อาจมีการถกเถียงกันว่าใครผิดใครถูก เพื่อจะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นตรงทางกลับรถ เราจึงควรทราบถึงการกลับรถที่ถูกต้อง มีข้อควรปฏิบัติมาแนะนำดังนี้

ยูเทิร์น

ขั้นตอนการยูเทิร์นกลับรถ

1. ต้องระวังให้มีระยะห่างจากรถทางตรงจากจุดที่เราจะทำการเลี้ยวไม่น้อยกว่า 100 เมตร หรือมากกว่านั้น ต้องคำนวณความเร็วของรถทางตรงให้แน่ใจว่าเลี้ยวไปแล้วไม่ไปตัดหน้ารถทางตรงซึ่งอันตรายมาก

2. บริเวณทางแยกทางร่วมที่มีสัญญาณไฟจราจรห้ามกลับรถขณะที่ได้รับสัญญาณไฟแดง ต้องรอให้รถทางตรงมีสัญญาณไฟเขียวก่อน การเลี้ยวกลับรถแบบไม่รอสัญญาณไฟเลี้ยวออกไปเลย ทำให้สวนเข้ากับรถทางตรงที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็วสูงทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง

3. เมื่อเริ่มต้นการเลี้ยวกลับรถหรือยูเทิร์น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถเราที่กำลังเลี้ยวกลับลำมีความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ จากรถทางตรง ระวังคนข้ามถนนที่อาจเดินหรือวิ่งตัดหน้ารถของคุณขณะเลี้ยวกลับลำ เมื่อเห็นว่าถนนว่างโล่งปลอดภัยดีแล้ว ขับโดยเลี้ยวแบบช้าๆ ไม่ต้องใช้คันเร่งเยอะหรือเลี้ยวแบบพรวดพราด

4 อย่าลืมเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวทุกครั้งก่อนที่จะเข้าสู่ช่องทางของรถที่จะยูเทิร์น เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวล่วงหน้าไกลๆ แต่ต้องไม่ขับช้าเกินเพื่อไปยังจุดรอเลี้ยวกลับรถเพราะอาจเกิดอันตรายจากรถคันข้างหลังที่กำลังขับตามมา ชนท้าย

5. หยุดรถข้างขอบทาง เมื่อมองเห็นว่าถนนว่างดีไม่มีรถทางตรงเลนขวาหรือเลนซ้ายที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็ว ก็เริ่มต้นการเลี้ยว หมุนพวงมาลัยให้เร็วขึ้นอีกนิดในขณะที่ใช้คันเร่งไม่ต้องมาก เมื่อรถตั้งลำแล้วก็เริ่มกดคันเร่งส่งความเร็วขึ้นไปเลย ห้ามขับช้าเพราะรถ อยู่ในเลนรถเร็วซึ่งอันตรายมาก

6. อัตราการใช้ความเร็วระหว่างการเลี้ยวกลับรถก็มีความสำคัญ หากผิวถนนเปียกลื่นแล้วเลี้ยวกลับรถเร็วๆ อาจทำให้รถหมุนหรือลื่นไถลได้ง่ายๆ

7. เมื่อเลี้ยวกลับลำแล้ว ให้มองช่องทางซ้ายก่อนที่จะเปลี่ยนช่องทางไปด้านซ้ายเพื่อหลบให้รถทางตรงที่วิ่งเร็วมากกว่าแซงผ่านไป เมื่อเลี้ยวกลับรถเสร็จเรียบร้อยก็ต้องระวังรถคันข้างหลัง ไม่ควรขับช้าจนอาจทำให้เกิดอันตรายจากการโดนชนท้าย ควรจะใช้ความเร็วให้เท่ากับรถทางตรงทันที ไม่ใช่ขับช้าเกินเพราะรถทางตรงที่วิ่งมาด้วยความเร็ว เบรกจนตัวโก่ง

8. ห้ามยูเทิร์นตัดข้ามเส้นทึบสีเหลืองหรือขาว ยิ่งเส้นทึบมีสองเส้นยิ่งอันตรายต้องไปหาจุดอื่นกลับแทน รวมถึงบริเวญที่มีเครื่องหมาย ห้ามยูเทิร์น ก็ไม่ควรฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ทุกเมื่อ

ยูเทิร์น

เมื่อขับรถทางตรงแล้วมีรถรอเลี้ยวกลับรถอยู่เราควรทำอย่างไร

เมื่อขับรถถึงทางที่กลับรถและมีรถจอดรอกลับรถอยู่ ให้คิดไว้เสมอว่า รถอาจวิ่งออกมาได้เสมอ ลดความเร็วลงเล็กน้อยและเตรียมตัวพร้อมทั้งตั้งสติในพื้นที่คับขัน และวางแผนล่วงหน้าว่า หากว่ารถขับออกมาจริงๆ เราจะได้เตรียมเหยียบเบรกได้ทัน ช่วยทำให้เราระวังตัวมากขึ้น ช่วยให้เราปลอดภัยมากขึ้น